เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2564 นายพีระวัฒน์ อัศวปรานี กงสุลใหญ่ ณ เมืองเซี่ยเหมิน และคณะได้พบหารือกับศาสตราจารย์หยาง ปิน รองอธิการบดีอาวุโส มหาวิทยาลัยเซี่ยเหมินและคณะผู้บริหาร รวมทั้งได้เยี่ยมชมวิทยาลัยเคมีและวิศวกรรมเคมี (College of Chemistry and Chemical Engineering) และวิทยาลัยภาษาต่างประเทศและวัฒนธรรม (College of Foreign Languages and Cultures) แห่งมหาวิทยาลัยเซี่ยเหมิน

     กงสุลใหญ่ฯ ได้ชื่นชมบทบาทของมหาวิทยาลัยฯ ในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษาและวิชาการที่มีความใกล้ชิดกับไทย ซึ่งความร่วมมือด้านการศึกษาเป็นพื้นฐานสำคัญของความสัมพันธ์ในระดับประชาชนที่แนบแน่นและลึกซึ้ง และทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการกระชับความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างมหาวิทยาลัยฯ กับไทย รวมถึงโครงการการจัดหลักสูตรฝึกอบรมล่ามภาษาจีนระยะสั้นแก่ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ นอกจากนั้น ยังได้หารือถึงโอกาสการขยายความร่วมมือในการพัฒนาอุตสาหกรรมเพื่ออนาคตในไทยโดยเฉพาะในพื้นที่เขต EEC โดยมหาวิทยาลัยฯ จะพิจารณาสำรวจความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยของไทยเพื่อจัดทำหลักสูตรพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่ขับคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี และส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างนโยบาย Thailand 4.0 และข้อริเริ่ม BRI ของจีน  

     หลังจากการพบหารือกับรองอธิการบดีฯ มหาวิทยาลัยเซี่ยเหมินได้จัดให้กงสุลใหญ่ฯ และคณะได้เยี่ยมชมวิทยาลัยเคมีและวิศวกรรมเคมี โดยมีนายเซี่ย จ้าวฉง คณบดี ให้การต้อนรับและนำชมห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ต่อจากนั้น กงสุลใหญ่ฯ ได้เข้าร่วมหารือกับนางหลิว เยว่ รองคณบดีวิทยาลัยภาษาต่างประเทศและวัฒนธรรม เกี่ยวกับความร่วมมือในการจัดหลักสูตรอบรมล่ามสำหรับข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ

     เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปี แห่งการก่อตั้งมหาวิทยาลัยเซี่ยเหมิน สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้มอบเงินสนับสนุนแก่มหาวิทยาลัยฯ จำนวน 9,699 หยวน เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับนักศึกษาไทย และได้มอบหนังสือเกี่ยวกับประเทศไทย อาทิ สถาบันหลักของชาติ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย และประวัติศาสตร์การทูตไทยให้แก่อธิการบดีและห้องสมุดของมหาวิทยาลัยฯ เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้เกี่ยวประเทศไทยแก่นักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัยฯ ต่อไป

     ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยเซี่ยเหมินเป็นสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในเมืองเซี่ยเหมินที่ได้รับความนิยมจากนักศึกษาไทย โดยก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีนักศึกษาไทยศึกษาที่มหาวิทยาลัยฯ จำนวนประมาณ 200 คน และปัจจุบันมีนักศึกษาไทยที่ลงทะเบียนเรียนประมาณ 80 คน