กงสุลใหญ่ ณ เมืองเซี่ยเหมิน เข้าร่วม “การประชุมสัมมนาจับคู่ทางธุรกิจไทย-จีน และการแนะนำนิคมอุตสาหกรรมไทย” เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างไทย-จีน

กงสุลใหญ่ ณ เมืองเซี่ยเหมิน เข้าร่วม “การประชุมสัมมนาจับคู่ทางธุรกิจไทย-จีน และการแนะนำนิคมอุตสาหกรรมไทย” เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างไทย-จีน

วันที่นำเข้าข้อมูล 8 ธ.ค. 2563

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 736 view

              เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 นายพีระวัฒน์ อัศวปรานี กงสุลใหญ่ ณ เมืองเซี่ยเหมินเข้าร่วม “การประชุมสัมมนาจับคู่ทางธุรกิจไทย-จีน และการแนะนำนิคมอุตสาหกรรมไทย” เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างไทย-จีน งานสัมมนาครั้งนี้จัดขึ้นโดยคณะกรรมการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเมืองเซี่ยเหมิน (China Council for the Promotion of International Trade Xiamen Committee หรือ CCPIT Xiamen) หอการค้าระหว่างประเทศเมืองเซี่ยเหมิน สำนักงานผู้แทนในจีนของสมาคมส่งเสริมธุรกิจอาเซียน+6 แห่งประเทศไทย และศูนย์แลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมอาเซียน โดยมีผู้เข้าร่วมงานทั้งผ่านระบบออนไลน์และเข้าร่วมภายในงานรวมกว่า 500 คน ครอบคลุมวิสาหกิจกว่า 130 แห่ง

               นายจาง เฉวียนจวิน ประธาน CCPIT Xiamen กล่าวเปิดงานว่า ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership หรือ RCEP) เป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนและไทย และหวังว่าเซี่ยเหมินจะเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน และโครงสร้างพื้นฐาน กับไทยเพิ่มขึ้นผ่านข้อริเริ่ม BRI ของจีน และนโยบายส่งเสริมพื้นที่ EEC ของไทย นายจางฯ ย้ำถึงความสำคัญในการส่งเสริมวิสาหกิจของทั้งสองประเทศในการขยายความร่วมมือด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัล ชีววิทยาและเภสัชกรรม โลจิสติกส์ อีคอมเมิร์ช และทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น

               กงสุลใหญ่ฯ กล่าวว่า ปัจจุบัน ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทำให้ทั่วโลกรวมถึงจีนซึ่งประสบปัญหาด้านการค้ากับสหรัฐฯ จำเป็นต้องรักษาความต่อเนื่องของห่วงโซ่อุปทานและกระจายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่นในภูมิภาค โดยประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งในอาเซียนที่น่าไปลงทุนเป็นอย่างยิ่ง โดยนักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจในไทย และด้วยปัจจัยสนับสนุนนานับประการ อาทิ ความเป็นอยู่ที่ปลอดภัยและสะดวกสบายสำหรับนักลงทุนและนักธุรกิจชาวต่างชาติ การมีแรงงานทักษะ การเป็นศูนย์กลางของการคมนาคมขนส่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงโครงข่ายการคมนาคมขนส่งและระบบการสื่อสารที่รวดเร็วและทันสมัย โดยรัฐบาลไทยให้การยกเว้นภาษีและสิทธิพิเศษต่าง ๆ มากมายแก่นักลงทุนต่างชาติ

               ความตกลง RCEP ที่เพิ่งมีการลงนามจะช่วยขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนในภูมิภาคแก่นักธุรกิจทั้งไทยและจีน ซึ่งไทยและจีนมีเป้าหมายการพัฒนาที่สอดคล้องกัน โดยรัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนและครอบคลุม และสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเสริมสร้างศักยภาพของวิสาหกิจขนาดย่อม ขนาดเล็กและขนาดกลาง รวมถึงการพัฒนาทักษะแรงงานเพื่อรองรับยุคปกติใหม่และเศรษฐกิจดิจิทัล

               ทั้งนี้ ภายในงาน ยังมีผู้แทนจากนิคมอุตสาหกรรมในไทยและหน่วยงานอื่น ๆ ร่วมกล่าวบรรยายเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโดยรวมของไทย นโยบายส่งเสริมการลงทุน ประสบการณ์และข้อควรคำนึง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจด้านการลงทุนสำหรับผู้ประกอบการจีน ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ณ นครกว่างโจว นิคมอุตสาหกรรมบ่อทอง นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ และบริษัท Xiamen Zhuorui Enterprise Management Consulting เป็นต้น

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ