สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเซี่ยเหมิน ร่วมกับศูนย์แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและศิลปะอาเซียนจัดงานเทศกาลสัปดาห์ภาพยนตร์ไทยในเมืองเซี่ยเหมิน ภายใต้ธีม “Reminiscing Thailand Through Thai Classical Films” ระหว่างวันที่ 9 -15 ธันวาคม 2565 ณ โรงภาพยนตร์ Wanda เขตจี๋เหม่ย เมืองเซี่ยเหมิน เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมและความเข้าใจอันดีระหว่างไทย-จีนในระดับประชาชน โดยได้คัดเลือกภาพยนตร์ไทยมาจัดฉายในงานจำนวน 4 เรื่อง ได้แก่ เรื่อง เรื่อง “โหมโรง” “ข้างหลังภาพ” “The Letter” และ “ความสุขของกะทิ” เรื่องละ 2 รอบฉาย

         พิธีเปิดงานเทศกาลสัปดาห์ภาพยนตร์ไทยในเมืองเซี่ยเหมินจัดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2565 โดยมีผู้เข้าร่วมพิธีจากหน่วยงานภาครัฐ คณะกงสุลต่างประเทศ สื่อมวลชนท้องถิ่น รวมทั้งนักศึกษาไทยและสมาคมชาวไทยโพ้นทะเลในเมืองเซี่ยเหมินเข้าร่วมประมาณ 150 คน

         กงสุลใหญ่ฯ ได้กล่าวเปิดงานฯ โดยกล่าวถึงความสำคัญของภาพยนตร์ซึ่งเป็นสื่อสะท้อนค่านิยมและมุมมองในสังคม และขับเคลื่อนสังคมในทางที่ดียิ่งขึ้น ในช่วงปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมภาพยนตร์และบันเทิงไทยมีศักยภาพสูงและได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นทั้งในเอเชียและตลาดโลก อีกทั้งประเทศไทยยังเป็นแหล่งถ่ายทำภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมจากต่างประเทศด้วยทัศนียภาพที่สวยงามและหลากหลาย ดังนั้น อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทย จึงเป็นแรงขับเคลื่อนการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะหลังสถานการณ์โควิด-19 ด้วย และหวังว่า การรับชมภาพยนตร์ไทยจะช่วยกระตุ้นให้เกิดความสนใจในการเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศไทยเมื่อสถานการณ์อำนวยต่อไป     

        ในพิธีเปิดดังกล่าว สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้จัดฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์เรื่อง “โหมโรง” ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับดนตรีไทย เค้าโครงเรื่องได้แรงบันดาลใจจากชีวประวัติของ หลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) บรมครูดนตรีไทยในสมัยช่วงปลายศตวรรษที่ 19 โดยก่อนการฉายภาพยนตร์ สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้นำเสนอการแสดงระนาดเอกเพลง “จีนตอกไม้” ซึ่งเป็นผลงานการประพันธ์เพลงไทยเดิมของ หลวงประดิษฐ์ไพเราะ โดยนักศึกษาไทยมหาวิทยาลัยเซี่ยเหมินด้วย อนึ่ง สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้มีการแจกเครื่องดื่มน้ำมะพร้าวไทยแบบขวดยี่ห้อ IF เพื่อให้ผู้เข้าร่วมพิธีเปิดฯ ได้ลิ้มลอง เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นด้วย

       ทั้งนี้ งานเทศกาลสัปดาห์ภาพยนตร์ไทยในเมืองเซี่ยเหมิน จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 โดยเป็นส่วนหนึ่งของงานเทศกาลภาพยนตร์ไก่ทองคำแห่งประเทศจีน ครั้งที่ 35 (The 35th China Film Golden Rooster Awards)