เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2563 นายพีระวัฒน์ อัศวปรานี กงสุลใหญ่ ณ เมืองเซี่ยเหมิน พร้อมด้วยข้าราชการสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้เข้าพบนายหู ชางเซิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองเซี่ยเหมิน ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง กงสุลใหญ่ ณ เมืองเซี่ยเหมิน เพื่อแนะนำตัวและหารือเกี่ยวกับโอกาสการขยายความร่วมมือระหว่างไทยกับเมืองเซี่ยเหมิน

      ในโอกาสดังกล่าว ทั้งสองฝ่ายหารือเกี่ยวกับการขยายความร่วมมือระหว่างไทยและเซี่ยเหมิน โดยนายหูฯ ได้กล่าวว่า ความสัมพันธ์ไทยและเซี่ยเหมินมีความใกล้ชิดแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการเปิดสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเซี่ยเหมิน เมื่อปี 2548 ซึ่งช่วยส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมระหว่างกันมากขึ้นโดยครอบคลุมหลากหลายมิติทั้งการค้าและการลงทุน การท่องเที่ยว การศึกษา วัฒนธรรมและการแลกเปลี่ยนระดับประชาชน และเห็นว่า เมืองเซี่ยเหมินและไทยสามารถยกระดับความร่วมมือระหว่างกันได้ด้วยการเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง BRI กับ EEC ในสาขาความร่วมมือใหม่ ๆ เช่น AI Big Data และการพัฒนานวัตกรรม รวมถึงการพัฒนาเมืองอัจริยะ ท่องเที่ยว การศึกษาและวัฒนธรรม

      กงสุลใหญ่ฯ ได้ชื่นชมความสำเร็จของเมืองเซี่ยเหมินที่ได้รับการยกย่องจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในฐานะเมืองตัวอย่างความสำเร็จในด้านต่าง ๆ ที่สำคัญ ได้แก่ การพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อม การขจัดปัญหาความยากจน ความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนได้จากมูลค่า GDP ที่สูงถึงกว่า 6 แสนล้านหยวนในปี 2562 ขณะที่เมืองเซี่ยเหมินสามารถสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาอุตสาหกรรมก้าวหน้า การพัฒนาและบริหารจัดการเมืองอัจริยะ ควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งเป็นรูปแบบการพัฒนาที่ดีที่ไทยประสงค์จะเรียนรู้ นอกจากนี้ กงสุลใหญ่ฯ กล่าวว่า แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะมีผลต่อการชะลอการลงทุนของภาคเอกชนไทยในต่างประเทศแต่ตนยินดีจะส่งเสริมให้ภาคเอกชนไทยพิจารณามาลงทุนในเมืองเซี่ยเหมินมากขึ้น โดยเฉพาะในสาขาธุรกิจที่ไทยมีความเชี่ยวชาญ เช่น สาขาการโรงแรม ขณะเดียวกัน ไทยยินดีต้องรับนักลงทุนจากจีนใน EEC ในสาขาเทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง

         ทั้งนี้ ปัจจุบัน เซี่ยเหมินเน้นการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศขั้นสูง อุตสาหกรรมการแพทย์และชีวภาพ การเงิน รวมทั้งการท่องเที่ยวและนิทรรศการ